Book Now
Empathy Sauce SOULSMITH
Uncategorized

มอบความปลอดภัยให้ตัวเอง

เวลาตัดสินใจ จะเลือก.. จะเลิก.. จะหยุด.. จะไปต่อ.. จะเอา..หรือไม่เอาอะไรเข้ามาในชีวิต คุณตัดสินใจโดยเอาอะไรเป็นตัววัด ..

..ความคุ้มค่า ความคุ้มทุน..นักบริหารหลายคนใช้หลักการนี้กับเรื่องงานและพาลเอาหลักนี้มาใช้ตัดสินใจเรื่องส่วนตัว
..ความสวยงาม ความดูดี.. คนที่ใช้ภาพลักษณ์ตัวตนในการดำเนินชีวิตก็คิดถึงเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆ
..ความสะดวก ความสบาย.. คนมากมายโตมากับสิ่งนี้และเข้าใจว่านี่คือตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตที่ดีที่ประสบความเร็จ

แต่..มีหนึ่งสิ่งที่เป็นเรื่องบ้านๆ เรื่องพื้นฐานที่หลายคนมองข้าม เลิกใคร่ครวญสิ่งต่างๆด้วยการมองไปในจุดนี้ ..ความปลอดภัย..

ความปลอดภัยเป็นรากฐานสำคัญต่อการมีสุขภาวะแข็งแรง และการมอบสิ่งนี้ให้กับตัวเองและคนที่เราดูแลก็มีแง่มุมให้ใส่ใจมากกว่าแค่รักษาเนื้อตัวไม่ให้เกิดอันตราย

ความรู้สึกปลอดภัยในทุกๆมิติของ wellbeing เป็นเรื่องสำคัญ เป็นความรับผิดชอบต่อตนเองและเป็นความรับผิดชอบต่อคนรอบข้าง เพราะถ้าหากเราปล่อยให้ตัวเองรู้สึกไม่ปลอดภัยมากเกินไปเรามีแนวโน้มจะเลือกทำพฤติกรรมหลายอย่างที่ไปเบียดเบียนคนอื่นได้หากทักษะการจัดการอารมณ์ของเราไม่แข็งแรง

ความปลอดภัยทางกาย _ เป็นเรื่องที่หลายคนหยิบหาสร้างให้ตัวเองได้ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีที่คุ้มกัน คุ้มครอง หรืออยู่ในสถานแวดล้อมที่ไม่เสี่ยงแก่การเกิดอันตราย ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไข้.. แค่นี้ความปลอดภัยทางกายก็สามารถเกิดขึ้นได้

ความปลอดภัยทางใจ _ อันนี้บางคนก็พอสร้างเองไหว เป็นเรื่องของความวางใจ อุ่นใจ สบายใจ แต่..หลายคนก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้สึกปลอดภัยทางใจแล้วหรือยังทุกวันนี้ เอาเป็นว่า..ถ้ารู้สึกเป็นตัวของตัวเอง สบายตัวกับตัวตนตัวเอง การเป็นอยู่คือกับสิ่งที่มีที่เป็นอยู่และรู้ว่าเดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะโอเคไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น…ก็สามารถเรียกได้ว่ามีมันแล้ว แต่ถ้ายังรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่รู้ว่าทำอะไรแล้วจะผิดไหม ทำได้ไหม พูดได้ไหม มากไปไหม จะรอดไหม…และกังวลว่ามันจะไม่โอเคยังไงในอนาคต..อันนี้ก็อาจจะยังไม่ได้มีความปลอดภัยทางใจอยู่กับตัว

ความปลอดภัยทางสังคม _ บางคนอยู่ในโครงสร้างสังคมที่บีบกั้นและคั่นการเข้าถึงชีวิตที่มีคุณภาพ ถูดตัดตอนจากการเข้าถึงทรัพยากร ถูกกดให้อยู่ใต้ผิวของพื้นที่กระแสหลัก และให้ความรู้สึกที่ไม่ได้เป็นที่ต้อนรับจากสังคมโดยรอบ แม้จะมีความปลอดภัยสองอย่างแรกแล้ว ก็ยากที่จะรู้สึกปลอดภัยไปได้ตลอดรอดฝั่ง

ความปลอดภัยทางการเงิน _ ในประเทศที่สวัสดิการไม่สอดคล้องกับความเป็นอยู่จริงทำให้ประชากรหลายประเทศตั้งอยู่ในโซนไม่ปลอดภัยนี้ค่อนข้างมาก การที่สภาพทางการเงินอยู่ในเขตไม่ปลอดภัย รายได้แทบไม่พอค่าใช้จ่าย เมื่อเจ็บป่วยแล้วไม่สามารถจ่ายค่ารักษาได้ ใช้จ่ายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีก็มีหนี้ให้เกิดความอันตรายต่อความรู้สึก ความไม่ปลอดภัยโซนนี้สร้างผลกระเพื่อมไปสู่ความสั่นคลอนในใจและชีวิตความเป็นอยู่ได้หลายทิศทาง

ความปลอดภัยทางจิตวิญญาณ _ ในโลกนี้มีบางสิ่งบางอย่างที่ละเอียดอ่อนและเชื่อมต่อกับความเชื่อที่เหนือกว่าสิ่งที่จับต้องได้ สิ่งนี้ไม่ได้งมงายแต่มันคือสิ่งที่ผลักดันให้เราทุกคนบ่มเกิดความเชื่อเพื่อสร้างความหมายให้กับชีวิตความเป็นอยู่ได้ พลังงาน ความเชื่อ ความเชื่อมโยงทางจิตใจ ศรัทธา สร้างความเป็นอยู่ทางจิตวิญญาณให้กับผู้คนมายาวนาน เพราะฉะนั้น..ถ้าเราละเลยตรงนี้ก็อาจจะเท่ากับการละเลยพื้นที่ที่มีผลต่อการเป็นอยู่โดยรวมของเราด้วย

ความปลอดภัยทางสติปัญญา _ สติปัญญาที่แกร่งกล้าเกิดจากการมีพื้นที่ให้เขายืดเหยียดวิ่งเล่น แต่ถ้าหากพื้นที่ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และความคิดเชิงวิเคราะห์ถูกทำให้เป็นพื้นที่ผิดบาป หรือตัวสติปัญญาถูกทำให้เกิดอันตรายเมื่อออกมาวิ่งเล่น ความรู้สึกนี้ก็สร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยได้เหมือนกัน

ความปลอดภัยทางหน้าการงาน _ ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาชีพการงานกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์สมัยนี้ การได้งานที่ใช้ทักษะความสามารถและจุดแข็งของตัวเองก็สามารถสร้างความรู้สึกมั่นคงต่อคนคนนั้นได้ แต่..หลายคนทำงานที่ไม่ได้ใช้ทักษะหรือความรู้ที่ตัวเองมีและเอาตัวไปอยู่กับอาชีพที่เอาทักษะความรู้ที่ตัวเองไม่มั่นใจและสร้างความกังวลต่อตนเป็นส่วนใหญ่ การพาตัวเองไปอยู่ในจุดนี้สร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยมาสู่ใจได้เหมือนกัน

ความปลอดภัยทางสิ่งแวดล้อม _ อากาศ ดิน ระบบนิเวศน์ เสียง แสง มีผลต่อมนุษย์โดยตรง มนุษย์มีความต้องการพื้นฐานที่สุดเหมือนกันคือความปลอดภัยทางกายเพื่อความอยู่รอด การจัดวางตัวเองให้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และถ้าหากมันอยู่ในจุดที่เราเลือกและควบคุมมันสภาพแวดล้อมที่อยู่ไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องที่จงจะต้องสะกิดไปถึงคนที่มีอำนาจเชิงระบบและอำนาจการจัดการในการดูแลความปลอดภัยในเรื่องนี้ เช่น ถ้าตึกที่ทำงานมีชั้นก่อสร้างอยู่บนหัวมาสามเดือนติดแล้ว ทำงานในที่เสียงเจาะดังเกินมานานแล้วก็ควรร้องเรียนให้ฝ่ายบริหารของบริษัททำอะไรสักอย่างกับสุขภาวะการทำงานของพนักงาน หรือถ้าหากอากาศและน้ำที่ใช่แต่ละวันของเมืองที่เราอยู่มันสร้างผลอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ ตัวเราในฐานะพลเมืองก็สามารถร้องเรียนและเรียกร้องให้คนมีอำนาจจัดการทำอะไรสักอย่างกับสิ่งนี้

แง่มุมต่างๆเหล่านี้ตรวจเช็คกับตัวเองได้ ว่าเรามอบหรือมีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต ณ ปัจจุบันพอไหม และเมื่อจะตัดสินใจ ก็สามารถนำปัจจัยความปลอดภัยมาใคร่ครวญควบคู่กับปัจจัยด้านอื่นๆ เพราะ..เน้นอีกครั้ง ความปลอดภัยเป็นความต้องการที่ทุกมนุษย์ต้องการ และถ้าหากมองข้ามความต้องการขั้นพื้นฐานของตัวเองอันนี้ก็เท่ากับว่าเราไม่มี empathy ต่อตัวเองในฐานะมนุษย์คนนึงเท่าไหร่

ความปลอดภัยมีหลายมิติ บางคนก็ว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งๆที่ร่างกายและการงานก็อยู่ในจุดที่เหมือนจะดีได้ ปรากฏคือความปลอดภัยทางใจในที่ทำงานไม่มีและความปลอดภัยทางสัมคมโดยรอบก็ไม่เกิด..

คำถามหลักๆก็คือ จะสร้างความรู้สึกปลอดภัยในทุกๆมิติให้กับตัวเองยังไง..
..การเอาตัวออกจากสิ่งที่ให้ความอันตราย การย้าย การสกัดกั้น หรือการตัดสิ่งนั้นออกก็เป็นทางเลือกหนึ่ง
..หรือการปรับสิ่งอันตรายให้กลายเป็นสิ่งที่มอบความปลอดภัยก็เป็นอีกทางหนึ่ง
..หรือหากสามารถเปลี่ยนและสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเองได้ ความปลอดภัยนั้นก็แทบจะไม่ห่างหายไปจากชีวิต

เพราะฉะนั้นต่อจากนี้จะเลือกอะไร ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญด้วยก็แล้วกัน และที่สำคัญ..การระวังตัวไม่ให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายความปลอดภัยของใครก็อาจจะช่วยสร้างสังคมที่น่าอยู่ได้ร่วมกัน..

หรือบางที.. ชีวิตสงบสุขที่มองหาอาจจะมาเมื่อความปลอดภัยถูกนำส่งมาถึงตัวก็เป็นได้
#empathysauce #ความปลอดภัย #empathyforlife #empathymatters