บ่อยครั้งที่เราอาจได้เจอกับการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกไม่โอเค ทั้งจากคนใกล้ตัว หรือคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งอันที่จริงเขาก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย เช่นแค่หยอกล้อกัน แซวกัน วางของไม่เป็นระเบียบ (ตามความคิดของเรา) หรือบางครั้งเขาหวังดี แต่เราไม่โอเคกับมัน เช่นทำความสะอาดห้องให้ ตักอาหารให้

เมื่อเจอแบบนี้ เราอาจจะเกิดความไม่พอใจ โกรธ แล้วเราก็แสดงความรู้สึกนี้ออกไป เขาก็ไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด หรือเราอาจเลือกที่จะเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจ เพราะเรารู้ว่าเขาหวังดี หรือรู้ว่าเขาไม่เข้าใจความรู้สึกของเรา และกลัวว่าถ้าบอกออกไปเขาจะโกรธ

3 เครื่องมือนี้ จะเป็นแนวทางที่จะช่วยให้สื่อสารบอกอีกฝ่ายได้ว่า เรารู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่เขาทำ โดยไม่ทำร้ายกัน

1. ปรับน้ำเสียง
เริ่มต้นจากการเลือกใช้น้ำเสียงกลางๆ ไม่แฝงทัศนคติ เพื่อให้คนฟังรับสารที่ตัว “คำ” เป็นหลัก ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกภายในของเราก่อนที่เราจะเริ่มชวนอีกฝ่ายคุย เราลองฟังเสียงในใจเราก่อนว่าเป็นอย่างไร หากฟังดูแล้วมีความรุนแรง กระแทก ตัดสิน ดูถูก ให้ลองค่อยๆ ดึงลง ปรับลดให้มาอยู่ในเส้นกลางๆ ก่อน ไม่อย่างนั้นจะมีความเป็นได้ว่าน้ำเสียงที่เราจะเปล่งออกไป จะมีความรู้สึกนั้นแนบไปด้วย

2. สื่อสารความรู้สึก
สื่อสารออกไปตรงๆ ด้วยคำพูดเลยว่าเรารู้สึกอย่างไร หลีกเลี่ยงการ “แสดงออก” ถึงความรู้สึก และการกล่าวโทษ (Blame) ที่ตัวเขา เพราะอาจทำให้เขาปิดที่จะรับฟังการเริ่มต้นประโยคด้วยชื่อของเราหรือสรรพนามแทนตัวเรา จะเป็นการช่วยเน้นว่านี่เป็นสิ่งที่เรารู้สึก ไม่ได้เป็นการต่อว่าหรือตัดสินเขาเช่น  ฉันรู้สึกขาดความเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่มีคนมาหยิบจับของใช้บนโต๊ะ
เรารู้สึกไม่ชอบและหงุดหงิดเวลามีคนมาดึงผมจากด้านหลัง

หลายครั้งที่อีกฝ่ายทำในสิ่งที่เราไม่โอเคด้วยความไม่รู้

เขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดี และเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาแค่ยังไม่เคยมีข้อมูลว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไร แทนที่เราจะไปมึนตึงใส่เขา หรือไปพูดใส่ว่า “ทำไมเธอถึงทำแบบนี้”

เราสามารถบอกไปได้เลยเราอยากให้เขาทำอะไร เช่น เรารับรู้ได้ว่าเธออยากให้เรารู้สึกดีนะ แต่เรามักจะรู้สึกเหมือนถูกบังคับเวลามีคนตักอาหารให้ จะเป็นไปได้มั้ยถ้าก่อนที่จะตักอะไรให้ ให้ถามเราก่อน

#EmpathySauce #EmpathyTools