เวลาที่เจ็บปวด ความอยากแรกของหลายคนคือ อยากหายปวด
สอง.. ปฏิกิริยาถัดมาคือหาทางทำทุกอย่างที่ทำให้ความปวดหมดไป
…
อยากหายปวดใจทำยังไง..
…
การปวดใจมอบความรวดร้าว ร้อนผ่าว และแหลกสลาย เป็นประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมันจะตายให้ได้ บางครั้งพาความคิดไปไกลจนชวนให้คิดว่าพรุ่งนี้มันจะไม่มีอะไรดีขึ้นได้กว่านี้อีกแล้ว
…
เราปวดใจตอนไหนบ้าง..
ตอนโดนทิ้ง โดนเท ไม่ว่าจากแฟนหรือจากงาน
คนรักไม่คืนกลับมา ไม่ว่าจะตายจากหรือมีคนใหม่
ตอนถูกหักหลัง หลอกลวงและทรยศ เจอคนพูดปด พูดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนหมดความเชื่อใจ
การถูกปฏิเสธจากองค์กรที่รักมานานเนิ่นเกินไป คาดหวัง career path เป็นขั้นบันไดแต่กลับได้เส้นทางราบยาวสุดตา
และอีกมากมาย
….
แล้ว.. พอเจ็บปวด.. หลายคนไม่อยากปวด

บางคนอยากชา ไม่อยากมองหน้าเห็นความเจ็บปวดที่ฝังตัวอยู่ในใจ ไปกินเหล้า ใช้ยา ไม่ก็สะกดจิตบอกตัวเองและคนรอบตัวว่า ‘ไม่รู้สึกอะไร’ ทำเป็นลืมๆ ไป

บางคนอยากผ่านพ้นให้ไว เปลี่ยนความสนใจไปทำโน่นบ้าง นี่บ้าง ให้ทำเป็นลืมไป แล้วทิ้งก้อนความปวดตั้งวางอยู่ในตัวไว้แบบไม่แตะต้อง

บางคนแก้ปวดด้วยการแก้สถานการณ์ เช่น แฟนทิ้งปั๊บก็หาแฟนใหม่ งานห่วยปุ๊บก็หาที่อื่นไป ซึ่งสมดุลย์ชีวิตตถูกจัดการอย่างไว แต่ความปวดใจก็ยังไม่ถูกคลี่คลาย

บางคนอยากขยี้ เข้าใจว่าหนามยอกเอาหนามบ่งยิ่งดี จะได้ทะลุกันไปไวไว เช้าฟังเพลงเศร้า เย็นฟังเพลงดิ่ง นอนร้องไห้ไม่ไหวติงอยู่ในที่ส่วนตัว..

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ไม่ได้ผิดอะไร ตอนที่เราเจ็บปวดเราก็อยากจะทำยังไงก็ได้ให้ภาวะนั้นมีนจางหาย แต่การเลือกวิธีแบบด้านบนมันไม่ใช่การทำงานกับความปวดที่เกิดขึ้นกับใจ มันแค่ปล่อยความปวดค้างไว้อยู่ตรงที่เดิม
…
หลายคนตอนปวดใจมีเสียงก่นด่าก่นว่าตัวเองทับซ้อนลงไป
“คนอย่างแกจะมีใครรักวะ”
“ก็เป็นคนอย่างเนี้ย ก็ไม่มีทางได้ดี”
“คนห่วยๆ อย่างแก ก็ต้องเจอกับอะไรแบบนี้ถูกแล้ว”
และประโยคเหล่านี้เป็นตัวบดขยี้เพิ่มดีกรีความปวดใจให้หนักหน่วง
…
ความปวดใจผ่อนคลายได้ด้วยความเข้าใจและการส่งเสียงที่เต็มไปด้วย empathy ที่ตัวเรามีต่อตัวเอง
การมี Self-empathy คือ การลดวางการตัดสินตัวเอง และพูดคุยกับตัวเองอย่างเข้าอกเข้าใจ
เสียงนี้ self-empathy นี้ช่วยให้เจ้าตัวมองทะลุความปวดใจไปจนเจอความต้องการที่อยู่ข้างใน
คนที่กำลังปวด สิ่งที่ต้องการก็คือการได้รับการเยียวยาและโอบอุ้มเพื่อให้สามารถผ่านพ้นมันไปอย่างไม่เดียวดาย
เพราะฉะนั้น..การถอยออกมามองภาพกว้างต่อสถานการณ์ที่เจอ ลดการตัดสิน และใช้น้ำเสียงถ้อยคำที่เยียวยาเป็นหนทางสู่การบรรเทาความปวดได้

เช่น

“เค้าไม่รักเราแล้ว .. มันก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”
“เมื่อมีสิ่งผิดพลาด เราก็รู้สึกท้อ มันก็มีกันบ้าง ก็เราคาดหวังกับมันค่อนข้างมาก”
“บริษัทไม่ดูแลเราอย่างที่คิด.. เขาก็มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น นี่ก็คับขันเขาเหมือนกัน เราเองต่างหาก..จะดูแลใจตัวเองยังไง”

ถ้อยคำแบบนี้เป็น emotional support อย่างดีให้กับตัวเอง และเมื่อเราทำแบบนี้กับตัวเองบ่อยๆ เราก็จะค้นพบว่าอาการปวดใจจะบรรเทาลงเพราะเราไปเจอสิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติของการเป็นมนุษย์ ที่มีผิดหวัง ท้อแท้ และผิดพลาดกันได้ และถ้อยคำเหล่านี้เป็นการเยียวยาชั้นดีที่บรรเทาอาการปวดใจให้ตัวเอง
…
ลองนึกง่ายๆ ว่าตัวเรามีตัวตนข้างในที่ได้รับความปวดใจจากสถานการณ์บางอย่างมา เขาถือความปวดใจนั้นไว้และคร่ำครวญ การที่ตัวเราที่ยังใช้ชีวิตกลับหันไปมองตัวตนที่อยู่ข้างในอย่างเข้าใจ รับรู้ความเจ็บปวดนั้นไว้และให้คำปลอบโยนเพื่อให้เขาไม่ผ่านความปวดนี้ไปโดยลำพัง ตัวตนข้างในเรานั้นจะเริ่มรู้สึกปลอดภัยมากพอที่จะเริ่มมองความเจ็บและยอมรับความปวด และนำพาไปสู่การคลี่คลายได้อย่างแท้จริง

#empathyismindmedicine #ยาสามัญประจำใจ #empathysauce #ยาบรรเทาปวด